วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Apple โดนซะแล้ว


จากข้อมูลที่สื่อต่างประเทศรายงานกล่าวว่า Apple โดนแฮคเกอร์โจมตีในลักษณะที่คล้ายกับที่ Facebook ผ่านช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ Java ที่เป็นปลั๊กอินในเว็บเบราวเซอร์ผ่านทางการเข้าชมเว็บไซต์สำหรับนักพัฒนาเว็บ ซึ่งการโจมตีดังกล่าวมาในลักษณะของมัลแวร์ โดย Apple ค้นพบจากเครื่อง Mac ในบริษัทแห่งหนึ่ง  แต่ Apple ไม่ได้เปิดเผยว่ามีข้อมูลใดถูกขโมยไปบ้าง
หลังจากค้นพบมัลแวร์ในเครื่อง Mac ทาง Apple ได้ออกอัพเดท Java for OS X 2013-001 1.0 เพื่ออุดรอยรั่วในซอฟต์แวร์ Java และกำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อควานหาต้นตอของการแฮคครั้งนี้ต่อไป โดยมีการเชื่อมโยงไปถึงกองทัพจีนด้วย ซึ่งสื่อต่างประเทศได้ระบุว่ากลุ่มที่ทำการแฮคเข้า Facebook และ Twitter อาจมาจากสถานที่แห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ มีเป้าหมายหลักอยู่ที่บริษัทสัญญาติอเมริกัน แต่แน่นอนว่าทางกองทัพจีนได้ออกมาปฏิเสธต่อคำกล่าวหาดังกล่าวแล้ว
โดยเรื่องดังกล่าวนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์จากกลุ่มแฮคเกอร์ จึงได้มีคำสั่งให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในระบบไซเบอร์ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจนำไปสู่การก่อการร้าย

“กุ๊บกิ๊บ” รับแล้ว เลิก “มาริโอ้” เผยเสียใจและยังรักอยู่

       “กุ๊บกิ๊บ” รับแล้ว เลิก “มาริโอ้” บอกเสียใจและยังรักอยู่ อ้างเพราะคบกันนานก็เลยถึงจุดต้องหยุดค้นหาตัวเอง พร้อมปัดยื้อเวลาเลิก เพราะกำลังตามง้ออดีตแฟนหนุ่ม พร้อมโต้สร้างข่าวเลิกกันเพื่อโปรโมตพ็อกเกตบุ๊ก 
      
       ทำเอาสาว “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” หน้าแหก เพราะหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ออกมายืนยันถึงสองครั้งว่าเลิกกันแล้ว ในขณะที่กุ๊บกิ๊บเองกลับยืนกรานยังเป็นแฟนกันอยู่ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำเอางงไปตามๆ กัน ว่า สรุปความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นยังไงกันแน่ ล่าสุด เมื่อวันนี้ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา กุ๊บกิ๊บได้ไปร่วมงานเปิดตัวโครงการบ้าน “ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน” ที่สยามพารากอน แต่ปรากฏว่า เจ้าตัวกลับวิ่งหนีสื่อไม่ยอมให้สัมภาษณ์ แถมมีการ์ดมาดูแลอย่างใกล้ชิด งานนี้มีคนเมาท์ด้วยว่าเจ้าตัวเป็นคนเตรียมให้การ์ดมาคุมเพื่อกันนักข่าวให้
      
       โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กุ๊บกิ๊บต้องมาร่วมงาน “พาราไดซ์ พาร์ค มหาตรุษจีน” ณ พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ผู้สื่อข่าวจึงตามมาสัมภาษณ์อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่า ได้เลิกกับมาริโอ้แล้ว ส่วนเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนไม่ได้หนี
      
       “จริงๆ ก็ไม่ได้หนี คือ ยังไงก็ต้องตอบอยู่แล้ว ก็ไม่อยากพูดหลายรอบ ก็อยากพูดทีเดียว คิดว่า น่าจะเข้าใจผิดกัน เพราะดีลกันว่าแค่จะไปพูดคุยบนเวที แล้วกิ๊บก็ต้องรีบมาที่นี่ต่อ ก็ตกใจไม่คิดว่าจะวุ่นวายขนาดนั้น รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดาราฮอลลีวู้ดมากเลย ไม่คิดว่าคนจะสนใจเราขนาดนี้ (หัวเราะ) แล้วเราก็โพสต์ขอโทษลงในอินสตาแกรมแล้ว แล้วก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ หนูก็ไม่รู้เหมือน แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ก็ขอโทษแทนกันไปเนอะ (เอาการ์ดมาคุม?) อุ๊ย...การ์ดที่ไหนล่ะ ไม่มีเลย หนูก็มาๆ ไปๆ เรื่อยๆ อยู่แล้ว การ์ดก็คงการ์ดของงานมากกว่า ไม่ใช่ของหนู ก็ส่งถึงรถค่ะ เพราะว่ากิ๊บต้องมาที่นี่ต่อ”
      
       ยอมรับเลิกกับ “มาริโอ้” ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน อ้างเพราะคบกันนานก็เลยถึงจุดต้องหยุดไปค้นหาตัวเอง
       “จริงๆ ก็คุยกันแล้ว โอเคเราก็เป็นแค่เพื่อนกัน ตอนนี้ก็หยุดก่อน ตอนนั้นก็ไม่ได้คุยกัน เราคิดยังไงก็ตอบอย่างนั้นก็ได้คุยกันหลังจากที่ให้สัมภาษณ์ไป ก็คิดว่าคนเราพอคบกันนานๆ มันก็มีจุดที่แบบหยุดพักทำอะไรค้นหาตัวเอง ก็ยังไม่ได้เจอโอ้เลย มีแต่โทร.มา เพราะว่าโอ้เขาก็งานยุ่ง จริงๆ มันก็ไม่ใช่อย่างที่โอ้บอกว่าหยุดรักกัน แต่เราแค่อยากจะหยุดโฟกัสงานต่างคนต่างใช้เวลาของตัวเองก่อน คือด้วยเวลาอะไรหลายๆ อย่าง”
      
       ยันไม่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยว เผยเสียใจ ทุกวันนี้ยังรักฝ่ายชายอยู่
       “จริงๆ ไม่ได้มีมือที่สาม คือ กิ๊บกับโอ้ถ้าจะเลิกกันก็ต้องเลิกด้วยตัวของเราเอง ไม่มีมือที่สามแน่นอน ก็เสียใจค่ะ คือ โอ้ก็เป็นเหมือนเพื่อนมาโดยตลอด แล้วก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ทุกวันนี้ก็ยังมีเหมือนเดิม ก็ไม่เสียความรู้สึกคือเรายังรัก แล้วก็ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ว่าตอนนี้เราแค่อยากหยุดก่อน แต่ว่าเราไม่ได้โกรธกันเราไม่ได้เกลียดกัน จริงๆ เราก็ไม่ได้เสียใจขนาดนั้น เราก็ยังรักกันอยู่ ยังดูแลกันเหมือนเพื่อน ว่างๆ ก็ไปกินข้าวกันได้ คือกับโอ้ไม่ว่ากิ๊บสถานะอะไรก็ได้”
      
       ปฏิเสธที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมรับ เพราะต้องการยื้อเวลา เพราะกำลังตามง้อ “มาริโอ้” อยู่
       “ก็รักอยู่แล้ว เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว คือ ไม่ใช่ยื้อหรอกมันเป็นเหมือนช่วงพักเบรก เหมือนช่วงเหนื่อยเหมือนอยากรู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ เพราะว่าอายุไม่น้อยแล้วก็อยากรู้ตัวเอง การยื้อหรือง้อกิ๊บว่าไม่ใช่คิดว่าเป็นความรู้สึกดีๆ คบกันมาตั้ง 9-10 ปี ก็โทร.คุยกันแต่ก็ไม่ได้ทะเลาะกันไม่ได้มีอะไร แล้วก็ไม่ได้ขอเลิกค่ะ ไม่มีใครขอเลิกใคร แต่เราตกลงกันเอง เพราะเราเป็นคู่รักที่ค่อนข้างแบบตรง คือ เรามีอะไรเราก็บอกตรงๆ คือ ตอนนี้เราก็ยังคุยกันได้ไม่มีอะไรค่ะ ยังไงเขาก็เป็นเพื่อนกิ๊บเพราะเรารู้จักกันตั้งแต่ 7-8 ขวบ เรามีอะไรก็โทร.ปรึกษากัน ถามว่าจะคืนดีมั้ย หนูยังไม่รู้ค่ะ เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ แต่เราก็ใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ไปก็แล้วกัน เราก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในเรื่องอนาคต”
      
       เถียงขาดใจหลังโดนเมาท์กุข่าวเลิกกันเพื่อโปรโมตพ็อกเกตบุ๊กของ “กุ๊บกิ๊บ”
       “หนูไม่เคยโปรโมตอะไรอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องโปรโมตด้วย อีกอย่างหนูก็ยังไม่ได้ออกตอนนี้ หนูก็ทำของหนูไปเรื่อยๆ ทุกคนถามว่าทำไมถึงลงอะไรเศร้าๆ หนูบอกว่าหนูไม่ได้ลงเศร้าๆ นะ หนูแค่กำลังเขียนหนังสือก็เลยให้กำลังใจคนเท่านั้นเอง ไม่ใช่พ็อกเกตบุ๊กด้วย หนูคงไม่ต้องโปรโมต เพราะโอ้เขาก็ดังอยู่แล้ว”
      

“อนันดา” ลุยงานเบื้องหลังเต็มตัว ให้ “โดนัท” ดูแลเกสต์เฮาส์ที่เชียงใหม่

“อนันดา” ลุยงานเบื้องหลังขึ้นแท่นผู้จัดละคร “รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์” พร้อมเตรียมทำหนัง “ฟูลเฮ้าส์” ส่วนความรักแฮปปี้ “โดนัท” ช่วยดูธุรกิจเกสต์เฮาส์ที่เชียงใหม่
      
       “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละคร “รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์” โดยมีพระเอก “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” กับ“ออม สุชาร์ มานะยิ่ง” นำแสดง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ขณะยกกองไปถ่ายทำที่อำเภอเขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า ตนดีใจที่ผู้ใหญ่เปิดโอกาสตนรับแท่นผู้จัดละคร
      
       “ผมก็มาดูกองตลอด มันก็แปลกดี พอเรามาสวมบทบาทโปรดิวเซอร์ คือ มันก็ยากอีกแบบ เราต้องอยู่ตรงกลาง ระหว่างฝั่งทางที่มีทัศนะความคิดทางการตลาดมากกว่า และก็ฝั่งกองที่เขามีความเป็นครีเอทีฟมันก็เป็นธรรมชาติ ก็โอเคครับก็เป็นปกติของงานที่เราต้องไซโคลน”
      
       รับกดดันบ้าง แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ เผยทุ่มเทจนบางครั้งอยากไปเล่นเอง
       “คือ ความกังวลผมว่ามันปกติแต่เราก็ทำงานออกมาให้ดีที่สุดเราก็อยากให้คนดูชอบ ยอมรับว่าเรื่องนี้อาจไม่เหมือนเรื่องที่เคยออกไปก่อนด้วยสไตล์ภาพสไตล์การแสดง”
      
       “ผมยังมีความสุขกับมันตรงที่ว่าถ้าจะให้ผมทำละครอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ผมคงทำไม่เป็น แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบนะ แต่เราไม่เข้าใจกับฉาก แต่ให้ผมทำสไตล์หนังผมทำ กดดันแต่ก็มีความสุขเพราะเราทำในสิ่งที่เราเข้าใจได้ ก็ทุ่มเทบางทีก็อยากเข้าไปเล่นเอง เราก็ต้องรู้ตำแหน่งทีมงานนักแสดงด้วย”
      
       แจงเตรียมเปิดกล้องเรื่อง “ฟูลเฮ้าส์” ต่อ รับมีอุปสรรคหาคู่พระนาง เนื่องจากส่วนใหญ่มีค่ายและสังกัดกันอยู่แล้ว
       “ต่อไปทำเรื่องฟูลเฮ้าส์ครับ อาจมีเบรกสักเดือนแต่เราก็เตรียมโปรดักชั่นไว้แล้ว ก็มีวุ่นไหนจะหนังที่ผมต้องเล่นเอง แล้วก็เตรียมหนังฟูลเฮ้าส์ด้วย ก็วางตัวนักแสดงไว้แล้วแต่ยังตอบไม่ได้ต้องยอมรับว่านักแสดงทุกวันนี้อยู่กับค่ายกันหมด คือ ผมเป็นคนอิสระตั้งแต่เด็กเลยลืมตรงนี้ เราชอบคิดว่าบทมันดีคนน่าจะอยากเล่น ตอนนี้อุปสรรคเยอะมากต้องผ่านผู้ใหญ่ต้องผ่านช่อง บางทีคุยกับนักแสดงเขาก็บอกว่าอยากเล่นมากก็มีนักแสดงมาคุยกับผมแบบนี้หลายคน ยอมรับว่า ฟูลเฮ้าส์มีคนอยากเล่นมาก แต่มันขึ้นกับหลายปัจจัย”
      
       นอกจากจะให้ผลิตงานเองทั้งหนังและละครแล้ว “อนันดา” ก็ยังทำธุรกิจที่พักที่เชียงใหม่ด้วย
       “ก็ใกล้จะเสร็จแล้วน่าจะเปิดทันสงกรานต์ ส่วนงบประมาณก็มีแค่ 14 ห้อง ก็ไม่ได้โหดร้ายมากก็หลายล้าน แต่คำว่าโรงแรมอาจจะผิดต้องเรียกเกสต์เฮาส์น่ารักๆ มีบาร์เท่ๆ มีร้านอาหาร มีร้านบูทิคขายของเก๋ๆ พวกสบู่แชมพูโดเป็นคนทำ ก็ช่วยดูของในบูทิคด้วย พวกเสื้อผ้าของชำร่วยให้ช่วยคัดสรรคนนำของเข้ามา”
      
       แฮปปี้เรื่องความรัก เผยไม่มีแพลนวาเลนไทน์
       “ก็โอเคครับ เพราะทุกคนพยายามยัดเยียดให้เป็น ก็เหมือนเดิมครับก็มีความสุขดี เพราะผมก็ไม่ได้ตามกระแสหรือติดตามข่าวเท่าไหร่ เพราะเราก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ”
      
       “วาเลนไทน์ คือ ผมเป็นคนไม่ค่อยละเอียดกับเรื่องนี้เท่าไหร่ คือ เราก็คงทำไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญขนาดนั้น คือ อยากหวานก็หวานวันไหนก็ได้ สิ่งที่เป็นวัตถุก็ไม่ได้มีความสำคัญเท่าจิตใจ เพราะส่วนมากโดเขาเป็นคนชอบเที่ยวชอบเดินทางจะพูดเรื่องเที่ยวกันมากกว่า”





“ชมพู่” รับไปส่องเพชรกับ “น็อต” แต่แค่ดูเพลินๆ ไม่ได้ซื้อแหวนหมั้น

“ชมพู่ อารยา” ปฏิเสธแอบไปเลือกแหวนหมั้นกับ “น็อต วิศรุต” แฟนหนุ่ม บอกไปนั่งส่องเพชรเฉยๆ ยันปีนี้ไม่แต่งแน่นอน เพราะงานเยอะ ผู้ใหญก็ไม่เร่งแล้ว เซ็งโดนอ้างชื่อขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ 
       
       เป็นคู่รักอีกหนึ่งคู่ที่คบมานาน และหลายคนลุ้นว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานกันซะที สำหรับเจ้าแม่แฟชั่น “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับ แฟนหนุ่ม “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” แถมล่าสุดมีคนเห็นว่าทั้งคู่ไปเลือกแหวนกันแล้ว งานนี้หลายคนเลยคิดว่าปีนี้แต่งชัวร์
       
       “ไม่ได้เลือกแหวนหมั้นไปนั่งดูเพชรก็ซื้อแต่ไม่ใช่แหวนหมั้นค่ะ ก็ดูปกติพี่น็อตไปด้วย หลังๆ ชมชวนก็มาดูด้วย ให้แกซื้อเก็บด้วยลักษณะนั้น คือ คุณน็อตเขามีของเขา อยากทำเป็นตัวเรือนมากกว่า แต่ไม่ใช่แหวนหมั้นยังไม่ใช่ จริงๆ ผู้หญิงก็ชอบค่ะ ว่างๆ พอดีกับผู้ใหญ่ที่ขายเพชรก็รู้จักกัน สนิทกัน ก็เลยไปนั่งส่องๆ เฉยๆ ไม่มีอะไรทำความสุขเพลินๆ แหวนคู่ก็ไม่มีหรอกค่ะ แบบที่เราชอบกับแบบที่เขาชอบไม่เหมือนกัน เขาใส่แบบเราก็คงจะสาวไป”
       
       “ปีนี้ยังไม่แต่งแน่นอน ปีนี้งานเยอะ กำลังเปิดกลรักสตรอว์เบอร์รี่ วันที่ 18 นี่เริ่มถ่ายวันแรก และเดือนหน้าเปิดทรายสีเพลิง มันมองไม่เห็นช่องทางที่จะเป็นไปได้ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง ปีหน้าค่อยคุยกันใหม่ว่าจะเอายังไง ผู้ใหญ่ก็เข้าใจว่าเราต่างคนต่างก็กำลังมีช่วงเวลาดีๆ ชมก็เรื่องงานก็กำลังดีก็เข้าใจ ท่านไม่ได้เร่ง เบื่อเร่งแล้วมั้งไม่เร่งนานแล้ว (หัวเราะ)”
       
       ของขวัญวาเลนไทน์ปีนี้ยังไม่ได้คิด บอก “น็อต” ไม่น้อยใจ
       “สำหรับของขวัญวาเลนไทน์ ชมจะแบบบางทีก็มีบางทีก็ไม่มี แล้วแต่อารมณ์ คบกันมานานแล้วบางทีก็เฉยๆ ปีไหนคิดได้ก็มี ปีไหนคิดไม่ได้ก็ไว้ก่อน เจอกันอีกทีวันเกิดหรือไม่ก็ปีหน้า ปีนี้ชมยังไม่ได้คิดเลย ชมลืมขอบคุณนะคะที่เตือน เขาไม่น้อยใจที่ลืมหรอกค่ะ”
       
       ไม่ว่าจะขยับตัวหยิบจับอะไร เจ้าแม่แฟชั่นอย่าง “ชมพู่” มักจะถูกเลียนแบบ ล่าสุด ชมพู่หันไปเล่นตุ๊กตาเฟอร์บี้ ก็มีคนเล่นตามทั่วบ้านทั่วเมือง จนมีคนแอบอ้างรู้จักกับ “อาเล็ก ธีรเดช” และชมพู่เพื่อหลอกขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ ตุ๋นเงินนับ 6 ล้านบาท
       “ไม่เกี่ยว อย่าเอาไปแอบอ้าง คือ ถ้าเสียหายมากๆ และเราได้รับผลกระทบด้วยถ้าถึงความจำเป็นจริงๆ ก็คงจะต้องว่ากันไปด้วยเรื่องของกฎหมาย แต่ตอนนี้ท่าทางจะคลี่คลายได้ จับต้นชนปลายได้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ปล่อยให้ทางการจัดการไป แต่ฝากเตือนสำหรับชมเองนะ”
       
       “ทัศนคติชมต่อการซื้อของออนไลน์ ถ้าไม่ได้มีระบบการจ่ายงินที่เป็นมาตรฐานสากล ถ้าไม่รู้จักกัน ไม่โอนเงินให้นะ ขอเตือนทุกคนเลย ใครก็ไม่รู้จะมาอ้างอิงว่าเป็นคนนั้นคนนี้เช็กดีๆ ลองกลับไปดูสิว่าหน้าอินสตาแกรมเขาที่เราตามอยู่ อย่าชม อย่างอาเล็ก หน้าของเราเองเรายังไม่ขายเลย เราจะไปขายหน้าคนอื่นทำไม ให้ใช้สติกันนิดหนึ่ง จริงๆ เพิ่งรู้เรื่องเมื่อวานเองนะ ตอนแรกเห็นอาเล็กขึ้นอินสตาแกรม ก่อนมีเรื่องนี้ด้วยเหรอไปๆ มาๆ มีเราเกี่ยวด้วย(หัวเราะ) ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณกันเยอะๆ”
       
       “คือ รู้สึกมันหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนเราก็จะโดนเอารูปไปหากิน ถามว่า เบื่อไหมเบื่อมากเวลาที่โดนเอารูปไปใช้ประโยชน์ในการค้า ก็พยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ถามว่าเซ็งไหม เซ็ง ดาราเซ็งทุกคน ตอนนี้มันหนักถึงขั้นเอาชื่อใช้หลอกลวงมันชักจะมากแล้ว ดาราก็เป็นคนนะ ชมชอบเล่นของเล่น ชมก็เป็นคนทั่วไป จะให้พูดยังไงอย่างที่บอกเป็นชม ชมไม่โอนตังค์ให้ใครที่ชมไม่รู้จัก หรือไม่ก็ต้องยื่นหมูยื่นแมวกัน ของมาตังค์ไป เราไม่เคยเจอหน้ากันไม่เคยทำธุรกิจกัน คุณต้องคิดดีๆ จะโอนตังค์ให้ใคร”



“สาวมาด เมกาแดนซ์” ครรภ์เป็นพิษ ผ่าคลอด-ผ่าตัดสมองด่วน แพทย์เฝ้าใกล้ชิดวันต่อวัน

       “สาวมาด เมกาแดนซ์” เจ้าของเพลงฮิตดาวมหาลัย ครรภ์เป็นพิษต้องคลอดก่อนกำหนด ความดันโลหิตสูงเลือดออกทับก้านสมองผ่าตัดด่วน แพทย์เฝ้าดูอาการวันต่อ ญาติเตรียมเปิดแถลงข่าวพรุ่งนี้
      
       หายหน้าไปนานเลยทีเดียวสำหรับ “สาวมาด เมกาแดนซ์” ศรุดา วรนัทมงคล นักร้องเพลงลูกทุ่ง เจ้าของเพลงฮิต “ดาวมหาลัย” แต่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สาวมาดก็เกิดอาการครรภ์เป็นพิษ ทำให้ความดันโลหิตสูงเลือดออกทับก้านสมอง แพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ต้องทำการผ่าตัดสมองเพื่อดูดเอาเลือดออก และทำคลอดลูกสาวในครรภ์แม้จะมีอายุครรภ์เพียง 6 เดือนออกก่อนกำหนด
      
       ซึ่งตอนนี้เด็กอยู่ในตู้อบ สามารถหายใจเองได้ แต่มีน้ำหนักตัวไม่ถึง 7 ขีด ส่วนสาวมาดนั้นขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว อาการทรงตัว พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอ.ซี.ยู ยังมีเลือดออกบริเวณก้านสมอง แพทย์พยายามให้ยาห้ามเลือด ประกอบกับตับไตมีอาการอักเสบ และแผลผ่าตัดที่หน้าท้องมีเลือดซึม แพทย์ต้องเย็บแผลที่หน้าท้องใหม่ แพทย์ต้องดูอาการแบบวันต่อวัน และเตรียมเปิดแถลงข่าวถึงความคืบหน้าของนักร้องลูกทุ่งคนดัง วันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น.ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

“เจนี่” รับห่าง “บอย” แล้ว รีบพูดดักจริงๆ ใช้คำนี้ไม่ได้ เพราะเป็นแค่เพื่อนมาตั้งแต่ต้น

“เจนี่” รับห่าง “บอย” แล้ว ก่อนพูดดักจริงๆ ใช้คำนี้ไม่ได้ เพราะเป็นแค่เพื่อนมาตั้งแต่ต้น พร้อมตอบซะห่างเหินบอกไม่รู้สัมพันธ์จะพัฒนาหรือไม่ เพราะตนทำงานแทบ 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่ว่างไปไหนด้วยกัน ยันตอนนี้โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ลั่นกลัวเจ็บไม่อยากรักใครง่ายๆ 
      
       ถึงรักครั้งนี้จะไม่ค่อยออกตัวแรง แต่ก็ยังพอจะได้เห็นภาพหวานระหว่างสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับไฮโซหนุ่มทายาทผู้บริหารห้างแพลทินัม “บอย พลาวุธ ลิมปิวิวัฒน์กุล” เพื่อยืนยันสถานะความรัก แม้สาวเจนี่จะบอกปัดเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอด แต่ฝ่ายชายกลับยอมรับแบบไม่กั๊กว่าดูใจกันอยู่ แถมพ่อแม่ไฟเขียว แต่ล่าสุด มีข่าวว่า หนุ่มบอยได้ขึ้นข้อความในอินสตาแกรมตัดพ้อว่าได้เลิกกับสาวเจนี่แล้ว ถามเรื่องนี้กับนางเอกสาว เจ้าตัวก็บอกว่า…
      
       “อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าเป็นเพื่อนกัน (แต่ในอินสตาแกรมดูเหมือนบอยจะเฮิร์ตๆ?) คำพูดจากปากเจนี่ คือ คำว่าเพื่อนกัน ไม่มีเขยิบความสัมพันธ์ ก็พูดคุยกันในฐานะเพื่อน เจนี่ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยตอนนี้ ไม่มีที่บอยโพสต์ข้อความว่าเลิกกับเจนี่แล้ว ถ้าถามว่าช่วงนี้คุยไหม ก็ห่วงในฐานะเพื่อน เขาก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังนะ ช่วงนี้ก็ห่างกันมากกว่าช่วงแรกๆ เพราะงานเยอะ”
      
       เมื่อย้ำถามว่ากับ “บอย” ยังแฮปปี้อยู่ไหม? นางเอกสาวก็ตอบเลี่ยงว่า
       “แฮปปี้กับงานค่ะ ใช้คำว่าห่างก็ไม่ถูกนะ เพราะเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ เจนี่ว่าเรื่องความรักของเจนี่มันเป็นอะไรที่เรื่อยๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่เจนี่รู้สึกว่าเราแฮปปี้จริงๆ เจนี่บอกพี่ๆ แน่นอน แต่ ณ ขณะนี้เจนี่ทำงานหนักมากจริงๆ เดือนมีนาฯ 31 วัน ไม่มีวันว่างแม้แต่ 1 วัน”
      
       “ตอนนี้ไม่มีใครดูใจเลย โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยฐานะเจนี่ขณะนี้และด้วยวัยของเจนี่ ก็ต้องดูแลความรู้สึกของตัวเองให้ดีๆ เมื่อไหร่ที่เจนี่พร้อมที่จะบอกหรือเปิดให้รู้ความรู้สึกจริงๆ ก็คงจะมีวันนั้น แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่ อนาคตถามว่าจะมีโอกาสพัฒนาไหม ไม่ทราบ ไม่มีไปไหนด้วยกัน เพราะไม่ว่าง จะมีใครจีบไหม ทำงาน 31 วันต่อเดือน แต่ไม่ทันได้เหงาเพราะมีงานเยอะอีกอย่างก็ค่อนข้างจะระมัดระวังหัวใจตัวเอง เพราะอายุเราก็พอสมควรแล้ว กลัวว่า ถ้าให้ใจใครไปง่ายๆ เดี๋ยวจะเจ็บ ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ เราก็ต้องเลือกเยอะขึ้น เพราะเพื่อนๆ ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ทุกคนแล้ว ถามว่าเจนี่กดดันไหม ก็นิดหนึ่งนะ”
      
       ส่วนที่ก่อนหน้านี้ “บอย” ออกมาพูดว่า ดูๆ กันอยู่ พ่อแม่ไฟเขียว “เจนี่” ปัดอย่างห่างเกินว่าก็แล้วแต่จะพูดไป
       “ก็ปล่อยให้เขาพูดไป เราเป็นผู้หญิงพูดอะไรมากก็ไม่ดี เจนี่ไม่ได้มองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของชีวิตคู่ เพราะแต่งงานก็เลิกได้ เจนี่ว่าถ้าเราแฮปปี้ตรงไหนมีความสุขกับตรงไหนก็อยู่ตรงนั้นดีกว่า ณ ขณะนี้เจนี่แฮปปี้กับทุกสิ่งในชีวิต ก็เป็นเพื่อนกัน ถามว่าถ้าเขาอยากจะพัฒนาเจนี่จะปิดโอกาสไหม ไม่ทราบเหมือนกัน ก็ต้องอยู่ที่เขาค่ะ ถึงวันที่พร้อมเมื่อไหร่ก็จะบอกจริงๆ ค่ะ”


     

“โย-บี” ลงทุนเปลือยท่อนบนถ่ายโปรโมตอาหารเสริมของตัวเอง


“โย-บี” ลงทุนเปลือยท่อนบนถ่ายโปรโมตอาหารเสริมของตัวเอง พร้อมแจงการถ่ายแบบนี้เป็นเรื่องปกติของนางแบบ แต่ถ้าใครจะมองเป็นนู้ดก็ไม่ว่า เพราะนู้ดคืองานศิลปะ ปลื้มขนาดยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่กระแสตอบรับดีมาก 
      
       เป็นเพื่อนซี้กันมานาน ล่าสุด สองสาว “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” และ “บี น้ำทิพย์ จงรัชตะวิบูลย์” ก็ตัดสินใจลงขันร่วมหุ่นทำธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ได้มาตรฐานจากนักโภชนาการร่วมกัน โดยทั้งคู่ลงทุนถ่ายแบบเปลือยท่อนบน เพื่อสื่อถึงผิวพรรณ สุขภาพที่ดี พร้อมแจงว่าการถ่ายแบบนี้เป็นเรื่องปกติของนางแบบ แต่หากใครจะมองว่าเป็นนู้ดก็ไม่ว่าเพราะนู้ดก็ถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง
      
       โย : “ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แค่ลองเปิดในอินสตาแกรม แต่เราก็มีถ่ายรูปโฆษณาของเราแล้ว ซึ่งเดี๋ยวเราจะเปิดประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจนในเร็วๆ นี้”
      
       บี : “แค่ลงในอินสตาแกรมคนก็เข้ามาสอบถามกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นคนนอกวงการและในวงการ ทุกคนให้ความสนใจเกี่ยวกับความสวยความงาม การควบคุมน้ำหนักมากเลย คนที่รักสุขภาพก็จะโทรเข้ามาติดต่อเรากัน”
      
       โย : “ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ที่ลูกค้าเราไม่ใช่แค่ผู้หญิงอย่างเดียว เรามีลูกค้าผู้ชายที่พอๆ กับผู้หญิงเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะทุกอย่างเราต้องคำนวณจากนักโภชนาการก่อนถึงจะทำอาหารที่เหมาะสมไปให้ เราเองก็ลองเทสต์รสชาติอาหารด้วยตัวเองทุกอย่าง รับรองได้เลยว่าอาหารของเราคุณภาพดีและอร่อยมาก คนที่ทานยากพอลองได้ชิมอาหารของเราแล้วก็จะถูกใจกันทั้งนั้น มีคนส่งข้อความมาชมว่าอาหารอร่อยเยอะมาก ไม่เหมือนอาหารไดเอตฟูด แต่จริงๆ แล้วมันเป็นอาหารไดเอตฟูดที่แคลอรี่ต่ำมากๆ”
       ลงทุนเปลือยท่อนบนถ่ายแบบโปรโมตสินค้า
       โย : “เราไม่ได้พยายามโชว์ให้มันดูออกมาเป็นนู้ดอะไรนะ เราต้องการสื่อถึงความมีสุขภาพดี การทานอาหารที่ดีก็บ่งบอกถึงผิวพรรณที่ดี สิ่งที่จะทำให้คนเห็นได้คือต้องมาจากที่ตัวเราก่อน นั่นคือ สิ่งที่พรีเซ็นเตอร์ที่ดีควรทำ ช่างภาพเองเขาก็หาคอนเซปต์มาได้อย่างเหมาะสมกับงานของเรา ไม่ได้โป๊อะไร แค่เห็นแผ่นหลังเท่านั้นเอง”
      
       บี : “งานเราที่ผ่านๆ มาโป๊กว่านี้อีก ตอนถ่ายเราก็เซฟกันอย่างดี ด้วยอาชีพของเราการโพสต์ท่าเซ็กซี่มันเป็นงานของเราอยู่แล้ว เรารู้ว่าลิมิตของเราได้แค่ไหน เราแค่อยากจะพรีเซ้นส์ว่าผิวพรรณเราดี หุ่นเราดีจริงๆ นะ เราไม่ได้เฟคมาถ่ายรูป อยากจะนำเสนอในด้านนี้มากกว่าค่ะ เราเองก็อยากให้คนมองว่ามันเป็นงานอาร์ตด้วย”
      
       โย : “นู้ดก็คืองานอาร์ตงานนึง ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะเรามองว่ามันเป็นงาน”








“ตั๊ก บงกช” รับท้องแล้วจ้า!

 สยบข่าวลือป่องก่อนแต่ง “ตั๊ก บงกช” รับตอนนี้ตั้งท้องเข้าเดือนที่ 2 แล้ว เจ้าตัวบอกสุดดีใจและที่ออกมายอมรับเพราะไม่อยากโกหกใคร
       ตกเป็นข่าวลืออย่างหนักถึงเรื่องตั้งท้อง หลังมีข่าวเตรียมจะเข้าพิธีวิวาห์กับคู่หมั้นเจ้าสัวคนดัง “บุญชัย เบญจรงคกุล” ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล
      
       ล่าสุด ข่าวลือที่ว่าก็เป็นอันสิ้นสุดลงแล้วหลังทางฟากของนักแสดงสาว “ตั๊ก บงกช” ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ด้วยตนเองด้วยการยอมรับว่า ตนกำลังตั้งท้องจริงๆ ขณะนี้อายุครรภ์เข้าเดือนที่สองแล้ว โดยทางว่าที่สามีได้พาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งตนรู้สึกดีใจมากๆ และที่ออกมาเปิดเผยก็เพราะไม่อยากที่จะโกหกใคร
      
        นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ตนก็ได้ตัดสินใจที่จะถอนตัวจากละครเรื่อง “นางมาร” ทางช่อง 8 แล้ว เพราะรู้สึกเกรงใจทางผู้จัดอย่าง “เมย์ เฟื่องอารมย์” เนื่องจากอาการแพ้ท้องที่ส่งผลให้อารมณ์แปรปรวนรวมถึงคำแนะนำของหมอที่แนะนำให้ดูแลตัวเองมากๆ ในช่วง 1-3 เดือนนี้ ซึ่งทางเจ้าสัวคนดังก็ได้มีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางผู้ผลิตเป็นจำนวน 2 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
      
        ทั้งนี้ นับตั้งแต่เข้าพิธีหมั้นหมายไปตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนของปีที่แล้ว ทางฟากของนักแสดงสาวก็ตกเป็นกระแสข่าวถึงการตั้งครรภ์มาโดยตลอด เนื่องจากเจ้าตัวนั้นมีหุ่นที่อวบขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตอนนั้นสาวตั๊กก็ได้ออกมาปฏิเสธโดยบอกว่าแค่อ้วนขึ้นเท่านั้น
      
        อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวลือที่ว่าก็มาหนักขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่าเจ้าตัวจะเข้าพิธีวิวาห์ ทั้งๆ ที่ผ่านมา นักแสดงสาวเป็นคนบอกเองว่ายังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน รวมถึงยังมีเรื่องของฤกษ์การจัดงานตลอดจนเรือนหอที่ยังไม่เสร็จ ก่อนที่ผู้เป็นมารดา นางธนาภา ชีพนุรักษ์ หรือแม่เล็กจะออกมาให้ข่าวว่าไม่แปลกหากลูกสาวจะตั้งท้องเพราะเข้าพิธีหมั้นหมายไปแล้วนั่นเอง

“ป๋อ” หนักใจต้องถ่ายวิดีโอ “เอ๋” ผ่าคลอด บอกกลัวเป็นลม

“ป๋อ-เอ๋” เลื่อนผ่าคลอดจาก 4 เม.ย. มาเป็น30 มี.ค. เนื่องจากเกรงว่าจะเจ็บท้องก่อน เผยไปอัลตราซาวนด์มาแล้ว ลูกตัวโตกว่าครรภ์ประมาณ 2 สัปดาห์ ด้านป๋อหนักใจต้องถ่ายวิดีโอตอนคลอด บอกกลัวเป็นลม
                
       ตั้งแต่ศรีภรรยา “เอ๋ พรทิพย์” ตั้งท้องมา ดูพระเอกหนุ่ม “ป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ” จะดูแลเอาใจใส่ดีมากจนหลายคนแอบอิจฉา และล่าสุด สาวเอ๋ ตั้งท้องแก่ได้ 8 เดือนแล้ว แต่ก็ยังทำงานให้เห็นกันอยู่ และทั้งคู่ได้มาร่วมงาน มอบทุนการศึกษาให้เด็กยากไร้ที่วัดท่าไม้ พร้อมเผยถึงอาการว่าตอนนี้จะเหนื่อยง่าย เตรียมผ่าคลอด 30 มี.ค.นี้
                
        เอ๋: “เหนื่อยง่าย แต่โอเคค่ะ ใกล้มากแล้ว กำหนด 30 มีนาฯค่ะ ตอนแรกเป็น 4 เมษาฯแต่คุณหมอบอกว่าเปลี่ยนดีกว่า เดี๋ยวจะเจ็บท้องก่อนเลยเลื่อนมานิดหนึ่ง ตอนนี้ไปอัลตราซาวนด์มาแล้ว น้องตัวโตกว่าครรภ์ประมาณ 2 สัปดาห์ พี่ป๋อบอกว่าอยากให้ลูกตัวสูงใหญ่”
      
        ป๋อ: “ด้วยพัฒนาการเขาตัวใหญ่กว่าช่วงอายุของเขา ส่วนใหญ่มาจากพ่อ ถ้าถามว่าผมจะเข้าไปห้องคลอดไหม นั่นล่ะ คือสิ่งที่เรากลัวอยู่ กลัวจะเป็นลม ฝากเอากล้องเข้าไปได้มั้ย (ยิ้ม) กลัวแต่คงทำนะ แต่จะทนได้รึเปล่าเดี๋ยวต้องว่ากัน ถึงผมเล่นหนังบู๊แต่ผมก็มีแต๋วเหมือนกันบางมุมนะ”
      
        เอ๋: “ซึ่งหมอบอกว่าไม่มีอันตรายอะไรค่ะ หมอบอกว่าคงผ่าคลอด ตื่นเต้นมาก นั่งนับวันแล้ว เรายังกลัว ตอนนี้แปดเดือนเต็มแล้ว กลัวเจ็บอย่างเดียว อยากเห็นเขา แต่เป็นคนกลัวเจ็บ กลัวสาย กลัวเข็ม”
                
       เผยเตรียมทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นไว้แล้ว
         เอ๋: “มีในใจบ้างแล้ว เดี๋ยวรอให้พระที่เรานับถือดูอีกที”
      
       ป๋อ: “ทางเรานี่ทางพระหมดเลย ตั้งชื่อ หรือคลอด เพราะอยากให้เป็นมงคล แม่บ่นแล้วว่าตั้งชื่ออะไรนักหนา แล้วไม่ผ่านซักชื่อ แต่ตอนนี้เรามีชื่อจริงเด็ดๆ และชื่อเล่นเด็ดๆ ถ้าผ่านรับรองเด็ดแน่นอน วันคลอดเชิญได้เลยนะครับ เข้าไปด้วยกัน”
                
         เผย “ป๋อ” เคยมีอาการแพ้ท้องแทนภรรยา
         เอ๋: “ก็มีอาการ คุณหมอบอกว่าพี่ป๋อน่าจะแพ้ท้องแทนเรา ไม่ได้อาเจียนแต่เป็นเรื่องของอารมณ์ เขาจะขี้หงุดหงิดอารมณ์เปลี่ยน แต่เราไม่เป็นอะไรเลย (ยิ้ม) เอ๋เข้าใจเขามากกว่าเพราะเมื่อก่อนเขาไม่เป็น แต่ตอนนี้เป็นน้อยลงแล้ว แต่โรคแบบนี้เป็นเขาก็หายเอง เขาโวยวายเดี๋ยวก็หาย เอ๋จะเฉยๆ”
      
        ป๋อ: “ถ้าบอกว่าเขาบอกว่าถ้าแพ้ท้องแทนแสดงว่ารักมาก ก็ชีวิตเราก็มีกันแค่นี้ นอกจากพ่อแม่พี่น้อง เรามีโอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วพอมีลูก เราก็ได้ใช้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์มากขึ้น อาจจะเป็นความรู้สึกที่ห่วง และก็หวงแหน เวลาทำงานก็ไม่ค่อยอยากให้ไป ก็อาจจะให้หยุดทำงานสิ้นเดือนนี้”




     

เล่นสกปรก! มือดีตัดต่อภาพ “เบิร์ด-ณเดชน์” เลือก “พงศพัศ”

       มือดีเล่นสกปรก! ตัดต่อภาพ “เบิร์ด ธงไชย-ณเดชน์-บัวขาว” เลือก “พงศพัศ” เป็นผู้ว่าฯ กทม. ด้านเบิร์ดเต้นโร่ปฏิเสธผ่านเฟซบุ๊ค ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น 
      
       ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 3 มีนาคม นี้ บรรยากาศการหาเสียงก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดถึงกับมีมือดีเล่นสกปรกตัดต่อภาพซูเปอร์สตาร์ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย , เดชน์ คูกิมิยะ และนักมวยไทยไฟต์ชื่อดัง บัวขาว ป.ประมุข ให้การสนับสนุน พล.ต.อ.พงศพัศ  พงษ์เจริญ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 9  ของพรรคเพื่อไทย อย่างออกหน้าออกตา จนเกิดเสียงวิจารณ์ไปทั่วว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพจริงหรือไม่?!
      
       ปรากฎว่าล่าสุด ทางฟากของนักร้องดัง เบิร์ด ธงไชย ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก http://www.facebook.com/birdthongchai โดยได้ปฏิเสธว่าภาพดังกล่าวเป็นเพียงภาพตัดต่อ
      
        “ช่วงนี้ถ้าใครเห็นรูปพี่เบิร์ดไปเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนตัวบุคคลที่เข้ามาชิงตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ขอให้ทราบกันว่าเป็น ภาพตัดต่อลงไปบนโทรศัพท์มือถือ พี่เบิร์ดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนบุคคลใดๆ ทั้งสิ้นครับ ขอบคุณครับ” 

“นานา” เลื่อนผ่าคลอดลูกแฝดจากกลางเดือน เป็นปลายเดือนนี้

“เวย์-นานา” ควงคู่เผยลูกแฝดแข็งแรง แต่ต้องเลื่อนผ่าคลอดจากกลางเดือน ไปเป็นวันที่ 27 ก.พ.นี้ ดีใจลูกอยู่ในท้องได้นานครบ 9 เดือน ด้านว่าที่คุณพ่อเวย์เตรียมเข้าห้องคลอดถ่ายวิดีโอด้วย 
       
       ใกล้จะเป็นคุณแม่เต็มที สำหรับอดีตสาวนักซิ่ง “นานา ไรบีน่า” เพราะตอนนี้ท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวยังเป็นกังวลกับลูกแฝดในท้องว่าจะอยู่ไม่ครบ 9 เดือน เพราะคนที่ท้องลูกแฝดส่วนใหญ่จะคลอดก่อนกำหนดหมด แต่ล่าสุดเจ้าตัวควงคู่มากับสามี “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ออกมาเผยว่า หมอเลื่อนนัดผ่าคลอดจากประมาณกลางเดือน ก.พ.เป็นวันที่ 27 ก.พ.นี้
       
       นานา: “ใกล้คลอดแล้วค่ะ อีก 2 อาทิตย์ คือตอนแรกจริงๆ แล้วกำหนดคลอดประมาณกลางๆ เดือนนี้ ช่วงหนังเข้า แต่ว่าไปเช็คกับคุณหมอแล้ว ปรากฏว่า เราแข็งแรงเนอะ (หัวเราะ) ถ้าเกิดออกตอนนี้มันก็ไม่ดี เพราะเขาอยู่ในท้องแม่ได้น้อย”
       
       เวย์: “ใช่ เราคุมน้ำหนักได้ดีครับ ลูกก็เลยอยู่ในท้องได้นานกว่าเดิม ถ้าออกมาวันที่ 27 ก็ไม่ต้องอยู่ในตู้อบ”
       
       นานา: “คิดว่าเขาจะอยู่ได้ครบ 9 เดือนค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วท้องแฝดส่วนมากก็ออกก่อน ก็หวังว่าถ้าเราอยู่ได้นานที่สุด เขาจะได้ไม่ต้องอยู่ในตู้อบค่ะ ที่นัดกับคุณหมอไว้ คือวันที่ 27 กุมภาฯค่ะ คือเลื่อนออกไปจากเดิมเป็นสิ่งที่ดีนะ ทำให้น้องได้อยู่ในท้องแม่ได้นานขึ้นค่ะ ตอนนี้ก็ดิ้นใหญ่เลย อยากออกมาเจอทุกคนแล้ว (ยิ้ม)”
       
       รับตื่นเต้นทั้งคู่
       นานา: “ตื่นเต้นแล้วก็แอบศึกษาหาข้อมูลเยอะเหมือนกัน อยากรู้ว่าผ่าท้องคลอดเป็นยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็พร้อมรับกับหน้าที่ใหม่ที่จะเกิดขึ้นค่ะ”
       
       เวย์: “คือมันก็ตื่นเต้นนะครับ ทุกคืนเราก็จะเตรียมพร้อมสำหรับเข้าห้องผ่าตัด ดูภาพวีดีโอในยูทิวบ์ เพื่อเตรียมพร้อมจะได้ไม่เป็นลม (ยิ้ม) เพราะผมตั้งใจว่าอยากจะเข้าไปที่ห้องผ่าตัดด้วย ก็คงจะเตรียมโทรศัพท์ 2 เครื่องเข้าไปถ่ายด้วย”
       
       นานา: “ก็แล้วแต่คุณหมออนุญาตด้วย (หัวเราะ)”
       
       เตรียมชื่อไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ขออุบไว้
       เวย์ “ชื่อลงตัวแล้วครับ”
       
       นานา “ลงตัวแล้วค่ะ เดี๋ยวรอดูดีกว่า รอเห็นหน้าน้องแล้วค่อยบอก ตอนนี้อุบไว้ก่อนค่ะ(หัวเราะ)”
       
       ด้าน “เวย์” อยากให้ “นานา” พักงาน แต่เจ้าตัวบอกตนชอบทำงานเลยไม่อยากอยู่เฉยๆ
       นานา: “จริงๆ แล้วตอนนี้ก็ไม่ได้พักเลยนะคะ ยังทำงานตลอดเรื่อยๆ”
       
       เวย์: “ทำงานที่บ้านครับ ทำงานเรื่องหนัง ห้าม ก็บอกให้อยู่บ้าน คือเขาก็อยู่บ้านอยู่แล้ว แต่เขาเป็นคนไฮเปอร์ถ้าเขาอยู่บ้านนานๆ เขาก็ต้องอยากออก”
       
       นานา: “แต่ห้ามไม่ให้นานาทำงานยากค่ะ เพราะนานาเป็นคนชอบทำงาน คือจริงๆ นานาว่าเราก็ไม่ใช่คนป่วย ถ้าเราทำงานแล้วเรามีความสุข นานาว่าก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เราก็ไม่ได้ไปกระโดดโลดเต้นที่ไหน”
       
       เผยเพื่อนๆ เตรียมของรับขวัญเพียบ
       นานา: “ก็มีป้าๆ น้าๆ อาๆ ทั้งหลายและก็เพื่อนๆ ทางฝั่งเวย์ และนานา หลายๆ คนเอ็นดูน้องแฝด ก็ให้ของมาเยอะมาก ตอนนี้พ่อแม่ก็ไม่ต้องซื้อเยอะมากเท่าไหร่ (หัวเราะ)”




     

"พอลล่า" ลุยธุรกิจเสื้อผ้าเด็ก เตรียมให้ "ไลลา" เข้าโรงเรียนไทย

       "พอลล่า" มุ่งทำธุรกิจเสื้อผ้าเด็กขายในอินสตาแกรม บอกถ้าขายดีอยากเปิดหน้าร้าน อุบบอกเงินลงทุน เผยให้ "ไลลา” เข้าโรงเรียนไทย เพราะอยากให้ได้ภาษาและวัฒนธรรมไทย ด้านสามี "เอ็ดเวิร์ด” ไฟเขียวไม่ขัด
      
       หันมาจับธุรกิจส่วนตัวอีกคนแล้ว สำหรับคุณแม่ยังสาว “พอลล่า เทเลอร์” ที่กำลังลุยธุรกิจทำเสื้อผ้าเด็ก ภายใต้แบรนด์ Paulaandbaby โดยมีนางแบบจำเป็นคือ“น้องไลลา” ลูกสาวที่น่ารัก ล่าสุดเจอพอลล่าในงาน Hall of Love ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็เผยกับผู้สื่อข่าวว่า
      
       "เพิ่งเปิดตัวเลยค่ะ คือพอลล่าทำเสื้อผ้าเด็กขาย ดีไซน์เอง ทำเอง ไปหาผ้ามาเอง สนุกมาก กระแสตอบรับก็ดีค่ะ พอเริ่มมีคนซื้อแต่ละชุดเราก็ตื่นเต้นมาก ทำเองหมดเลย เริ่มจากขายในอินสตาแกรมก่อนค่ะ เดี๋ยวจะไปทำเฟซบุ๊คด้วย ลงทุนก็เยอะเหมือนกันค่ะ ตอนแรกเริ่มก็นึกว่าจะนิดๆ หน่อยๆ แต่พอไปแล้วเริ่มเยอะ (หัวเราะ) ถ้าขายดีขนาดนั้นก็คงอยากเปิดร้านนะ แต่รอก่อน วันนั้นคงยังไม่ถึง คงอีกซักพักหนึ่ง”
      
       “ที่อยากทำธุรกิจเสื้อผ้าเด็กจริงๆ แล้วคงเป็นเพราะเรามีน้องนี่แหละ เราถึงเห็นตรงนี้ แต่ว่าเพื่อนเราแต่ละคนเขาก็เริ่มทำเสื้อผ้าขายแล้ว เขาบอกพอลล่าทำได้แล้ว เสื้อผ้าเด็กไม่มีใครเลย เมืองไทยไม่มีน่ารักเลย แบบก็คิดเองค่ะ คือเห็นจากไลลาทุกอย่างไลลานี้เป็นทั้งแบบทั้งเป็นหนูทดลองด้วย เขาก็ใส่ บางทีแบบตรงนี้มันควรเปลี่ยนตรงนี้เปลี่ยนกระดุมหรือว่ายาวขึ้น สั้นขึ้น ส่วนไลลายังพูดไม่ได้มีส่วนช่วยคือเห็นจากการใส่นี่แหละ ถ้าเขาดึงๆ ก็แปลว่าไม่สบาย”
      
       แพลนให้ "ไลลา" เข้าโรงเรียนไทย เพราะอยากให้ลูกได้ภาษาและวัฒนธรรมไทย
       “เพิ่งพาน้องไปดูโรงเรียนมาด้วย ตื่นเต้นดี ไปดูแถวเอกมัยมาค่ะ พอดีพอลล่าอยากให้น้องเข้าโรงเรียนไทย เพราะรู้ว่าที่บ้านน้องต้องได้ภาษาอังกฤษแล้ว เรากลัวเขาไม่ได้ภาษาไทย ก็เลยไปดูโรงเรียนไทยมา 2-3 โรงเรียน ก็มีสอนภาษาอังกฤษเหมือนอาทิตย์ละกี่วันว่าไป แต่ว่าเป็นโรงเรียนไทยเลย เพราะว่าพอลล่าพูดภาษาอังกฤษกับเขาและพ่อก็พูดกับเขาด้วย มันได้อยู่แล้ว แต่ว่าภาษาไทยเรากลัวว่าจะไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องภาษาอย่างเดียว เราอยากให้เขาได้วัฒนธรรมไทยด้วย กำหนดเข้าเรียนคงปีนี้ค่ะ อาจช่วงกลางปี ปลายปีรออายุ”
      
       “พ่อเขาก็ชอบ พ่อก็ไปดูด้วยที่โรงเรียน เขาก็บอกอันนี้มันดีนะ นู่นนี่ดีนะ เขาชอบค่ะ ที่บ้านเขาโอเคแฮปปี้มากเลยที่เราเอาวัฒนธรรมมาให้น้อง”
      
       ล่าสุดไปเที่ยวอเมริกา เผยต้องหาเวลาสวีทกับสามีบ้าง
       “ใช่ สนุกมาก พาไลลาไปดูหิมะมา ไปมา 2 อาทิตย์ค่ะ ต้องหาเวลาสวีทค่ะ(หัวเราะ)”





โอ้โห! “หมิว สิริลภัส” ท้าชิงตำแหน่งสั้นเสมอลิง “ใบเตย” ด้าน “ไอซ์” เต้าแดง ใน “ท็อป อวอร์ดส์”

       ทำเอางานประกาศผลรางวัล “ท็อป อวอร์ดส์ 2012” ที่จัดขึ้น ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แทบแตก เมื่อสาวๆ คนดังในวงการบันเทิงพากับแหวกเต้าดูมๆ มาร่วมงานให้ช่างภาพกดชัตเตอร์กันมือสั่น ขาประจำหวือก็ยังมากับครบเหมือนเดิม นำทีมโดย “เปิ้ล ไอริณ” ที่วันนี้เจ้าตัวบอกขอหวิวในชุดว่ายน้ำซีทรูอวดให้เห็นส่วนสัดแบบไม่หวง ตามด้วยสาว “ใบเตย อาร์สยาม” ที่ยังคงคอนเซ็ปต์สั้นเสมอหู แต่มีประโปรงยาวปิดคลุมด้านข้างเปิดให้เห็นเรียวขาขาวแค่ด้านเดียว ส่วนสาว“ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา” งานนี้เกิดสุดๆ เพราะปล่อยนมเล็ดเป็นลูกๆ ในชุดสีแดงเพลิง แถมยังแหวกสูงจนเสียวแทน กลัวอะไรๆ มันจะโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋เวลาก้าวขาเดิน!
      
       แต่คนที่ทุ่มทุนให้งานนี้ที่สุดเห็นจะเป็นนางเอก “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่ลงทุนซิ่งมอเตอร์ไซค์มาในชุดราตรีแต่ใส่รองเท้าผ้าใบ พอมาถึงเจ้าตัวก็รีบวิ่งเข้างาน ก่อนจะออกมาสวยเต็มเหนี่ยว หลังไปเปลี่ยนจากรองเท้าผ้าใบเป็นรองเท้าส้นสูงแทน อีกคนที่ขโมยซีนเห็นๆ ต้องยกให้นักแสดงสาว “หมิว สิริลภัส กองตระการ” หลังจากเพิ่งไปเปิดอึ๋มล้างรถมาหมาดๆ ล่าสุดเจ้าตัวก็เอาอีกแล้ว คราวนี้ใส่สั้นเสมอลิงมาแทนใบเตยเจ้าเก่า เรียกว่าทั้งชุดยาวไม่กี่คืบ มั่นขนาดนี้ก็เลยแจ้งเกิดในเส้นทางอึ๋มแตกอีกคน ส่วนใครจะเริ่ด! กว่ากัน ไปดูกันเต็มๆ
      

“ไข่มุก” แฮปปี้รัก “แดน” ทายาทหนังสือพิมพ์ 1 ปี ไม่เคยทะเลาะกันเลย

       “ไข่มุก” แฮปปี้รัก “แดน” ทายาทหนังสือพิมพ์ มา 1 ปี ไม่เคยทะเลาะกันเลย แถมยังเข้ากับครอบครัวฝ่ายชายได้ดี รับตอนแรกไม่ชอบเพราะดูไม่เนี๊ยบ แจงเป็นคนง่ายๆ ทั้งคู่ สามารถดินเนอร์มื้อละหลายแสน หรือกินส้มตำข้างทางก็ได้หมด พร้อมยินดีสมานแผลใจให้แดนจากรักครั้งก่อน 
      
       ซุ่มเงียบคบหาดูใจกันมาร่วมปี สำหรับสาว “ไข่มุก ชุติมา ดุรงค์เดช” และหนุ่ม “แดน เหตระกูล” ทายาทหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ และเป็นแฟนเก่าของพิธีกร“แหวนแหวน ปวริศา” ล่าสุดเจอสาวไข่มุก เจ้าตัวก็เผยถึงความรักครั้งนี้ว่า ตนกับหนุ่มแดนไม่ใช่คู่รักหวานแหววอะไรมาก เน้นความสุขของเราและความสุขของเธอ พร้อมเผยตอนแรกที่เจอยังไม่ปิ๊งเพราะคิดว่าเป็นเพลย์บอย
      
       “ตอนแรกเจอกันนี่งานวันเกิดเพื่อน เขามาแบบร็อกมาก มุกก็ตกใจเล็กๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาคือใคร เขาบอกว่าเขาคือแดน แล้วเขาก็แลกนามบัตรกันถึงรู้ว่าคือใคร เราก็งง…เป็นแบบนี้เหรอ เราก็คิดภาพเขาไว้ว่าเขาจะเป็นคนเนี๊ยบด้วย พอรู้จักกันแล้วถึงรู้ว่าเขามีหลายมุม มุมเนี๊ยบก็มี มุมร็อกก็มี เจอครั้งแรกตกใจ แต่พอเจอมาดเนี๊ยบนี่ดาวออกเลย ปิ๊งเลย (หัวเราะ)”
      
       “นี่ยังเถียงกันอยู่ทุกวันนี้เลยว่าใครจีบใครก่อน ก็ตนแรกๆ ที่แลกนามบัตรกัน เขาก็พยายามโทรหา ส่งแมสเสจมา แต่ตอนที่เจอเขาตอนนั้นเขาร็อกมากไง เราก็ตกใจ ตายแล้วเพลย์บอย ไม่เอา พยายามเลี่ยงเขา แต่วันที่เจอกันโดยบังเอิญนี่มาแบบว่ามาดคุณชายหวีผมเนี๊ยบ ใส่สูทเป๊ะ พูดจารู้เรื่องกว่าเดิม ก็เลยปิ๊งเลย ก็เลยยอมตอบแมสเสจบ้าง”
      
       “เราไม่ใช่คู่หวานอะไรกันมากมาย เราต่างชิลล์กันทั้งคู่ ชิลล์ในส่วนของกันและกัน ไม่ใช่ว่าเธอเป็นแฟนฉันแล้วเธอต้องเอาใจฉัน ต้องมาเฝ้าฉัน ต้องโทรหากันทุกวัน เราไม่ใช่อย่างนั้น เราเข้าใจกันมากกว่า ว่าเราต่างอยากโตในด้านของหน้าที่การงาน พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองกัน ต่างคนก็ต่างยุ่งกันไป เราคบกันเหมือนเพื่อนสนิทกันมากกว่า เราเน้นคอนเซ็ปต์ความสุขของเราและความสุขของเธอ”
      
       “คู่เราไม่ได้ปรับอะไรกันมาก เขาร็อกเราก็มีร็อกกับเขาบ้าง ด้วยมุกเองก็เป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้ว เราก็จะชอบไปมิวสิกเฟสติวัลด้วยกัน แต่เราไม่มีขอให้ต่างฝ่ายต่างปรับอะไรกัน แต่ถ้าเราไปเจออะไรที่เราต่างไม่ชอบ เราก็จะพูดกันตรงๆเลย ซึ่งเราก็จะรับฟังกัน ที่คบกันมาเราไม่เคยทะเลาะกันเลย เป็นอะไรที่แปลกมากเลย เราลงตัวกันมากโดยที่ไม่ต้องปรับอะไรกันเลย”
      
       “จะว่าโปรโมชันก็ไม่ใช่ คู่เราเลยโปรมาแล้ว ตอนนี้เวลามาเจอกันก็เหมือนได้มาเจอเพื่อนสนิท ก็เล่าสารทุกข์ของกันและกัน ที่รักเป็นยังไง มุกเป็นอย่างนี้ ก็ช่วยแชร์ความรู้สึกซึ่งกันและกันมากกว่า (อย่างแดนเองก็อาจจะเคยมีแผลใจจากความรักที่ไม่สมหวังครั้งที่ผ่านมา?) เท่าที่สัมผัสก็ยังไม่รู้สึกอะไรนะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราสมานให้ (หัวเราะ) มาเลยแผล มาเต็มๆ ได้เลย”
      
       ถึงจะเป็นลูกคุณหนูทั้งคู่แต่ สาว “ไข่มุก” บอกว่าเป็นคนง่ายๆ ดินเนอร์มื้อละหลายแสน หรือกินส้มตำข้างทางก็ได้หมด
       “ส่วนใหญ่จะเป็นตอนเย็นๆ เลิกงานก็หาเวลาไปทานข้าวด้วยกัน แล้วก็จะมีทานพร้อมคุณพ่อประชาด้วย เราก็เจอกันบ่อย เราก็ทานกันได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรูมื้อละเป็นแสน หรือส้มตำข้างทาง แล้วแต่อารมณ์เรามากกว่า จัดเต็มหลายแสนก็มี ส้มตำก็บ่อย พี่เขาจะไปดูแลร้านไวน์ทุกวัน วันไหนที่มีดีเจ มุกก็จะไป แล้วก็อยู่ดึก เลิกร้านเราก็ไปกินกันตามข้างทางทั่วไปนี่แหละ เราเองชอบกินส้มตำกันทั้งคู่ แต่มื้อเป็นแสนนี่จะไปกับคุณพ่อประชา มุกก็บอกว่าคุณพ่อขา ถ้ามุกกินข้าวกับคุณพ่อบ่อยๆ นี่คงหมดตัวกันแน่”
      
       แม้ความรักจะราบรื่นดี แต่ยังไม่คิดแต่งงานกัน
       “ข่าวดีเหรอ อย่างที่บอกเรายังไม่คิดอะไร เราคบกันมาแค่ปีเดียวเอง เราก็เพิ่มเข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ เพราะพี่ๆ ของพี่แดนเขาก็แต่งงานไปหมดแล้ว คุณพ่อท่านก็เมตตามุกเหมือนเพื่อนๆ พี่แดนทุกๆ คนแค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมาก อีกนานค่ะ มุกยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น”

“ปุ๊กลุก” ซ้อมเต้นหนักจนร้องไห้ ลั่นไม่หวังชนะเหมือนตอนประกวดนางงามจักรวาล

       “ปุ๊กลุก” ปัดอัปรูปตอนซ้อมเต้นเพื่อโปรโมตตัวเอง อ้างตอบแทนแฟนๆ ที่ติดตามอยู่ เผยซ้อมหนักถึงขนาดวิ่งเข้าห้องน้ำไปร้องไห้ บอกยิ่งใกล้วันตัดสินยิ่งกังวล พร้อมลั่นไม่หวังชนะเหมือนตอนประกวดนางงามจักรวาล
      
       ไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นตกประเด็นตลอด สำหรับสาว “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” ตั้งแต่ไปร่วมแข่งขันในรายการ “Dancing with the star” ออกอากาศทางช่อง7 ที่ก่อนหน้านี้ถูกจวกสร้างกระแสซ้อมเต้นจนเป็นลมเข้าโรงพยาบาล ตามด้วยถูกโจมตีว่าใส่ชุดเต้นวาบหวิวเกินไป ร้อนถึงเจ้าตัวต้องออกมาเคลียร์ไปแล้ว มาคราวนี้ก็เจออีกดอก หลังชอบอัปภาพตัวเองตอนซ้อมเต้นให้ดูทุกๆ ครั้ง ก็เลยเกิดเป็นกระแสอีกว่า ทำไปเพราะต้องการโปรโมตตัวเองเพื่อเรียกคะแนน
      
       “จริงๆ แบ็คกราวเป็นสตูดิโอ ชุดก็เปลี่ยนทุกวัน แค่รู้สึกว่ารายการเรียลลิตี้คนก็อยากรู้ความเป็นไปของตัวเราเป็นยังไง พี่ผู้จัดการบอกว่าน้องปุ๊กต้องอัปนะ เพราะว่าแฟนๆ ตามอยู่ จริงๆ ตัวเราแค่มือจะหยิบน้ำมาซดยังไม่มีแรงเลยค่ะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้คือตอบแทนแฟนๆ ที่เขาติดตามเราอยู่ เราอยากให้เขารู้สึกว่าเรามาซ้อมนะเป็นยังไงบ้าง”
      
       “ซ้อมหนักขนาด ซ้อมเสร็จ ร้องไห้ ลุกขึ้นมาซ้อมใหม่ วิ่งเข้าห้องน้ำบอกโปรแป็บหนึ่ง ไปร้องไห้ อายโปร สงสารโปร กลัวโปรกังวล มันเหนื่อยมันไม่ไหวจริงๆ สมองมันรับท่าไม่ไหวแล้ว แต่เราก็อยากให้โชว์ออกมาดี ดียิ่งขึ้นกว่าวีคที่ผ่านๆ มา มาตรฐานมันต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ แต่ก็ไม่เคยท้อเลย สิ่งที่ได้มาจากรายการนี้คือได้กำลังใจ แรงเชียร์เยอะมาก ทุกอย่าง เป็นอะไรที่น้อยหนูไม่ได้คิดอะไรเลย มันอิ่มใจจริงๆ ที่แฟนๆ ทุกคนรอเชียร์แต่ละวีคๆ”
      
       เมื่อถามถึงกระแสรายการ ที่ตอนนี้คนมองว่าเป็นนัมเบอร์วันแล้ว เจ้าตัวก็ปฏิเสธทันทีว่า
       “ไม่จริงค่ะๆ ทุกคนดูที่มาตรฐาน เขาเรียกว่าพัฒนาการที่พัฒนาขึ้นไป แต่ละคนด้วยอายุต่างกันอยู่แล้ว ตอนนี้เหลือ3 คนแล้ว กังวลมากกว่าไม่ได้ตื่นเต้น ตั้งแต่เต้นรายการนี้มาไม่เคยแข่งกับคนอื่นเลย แข่งกับตัวเองมากกว่า แข่งว่าเราจะชนะความขี้เกียจหลังจากที่ถ่ายละครหนักมาได้ไหม หรือทำงานอีเวนต์ รับงานมาแล้ว เราจะดึงตัวเองขึ้นมาซ้อมหนักๆ ได้ไหมค่ะ กังวลในส่วนนั้นในการจะชนะใจตัวเอง ไม่ได้กังวลว่าฉันจะชนะคนอื่นหรือเปล่า”
      
       “ถามว่าคิดไหมว่าเราจะได้แชมป์ เอาตรงๆ คือไม่คิดเลยจริงๆ ค่ะ ตอนประกวดนางงามจักรวาลยังหวังนะ นี่คือเราไม่ได้หวัง เพราะเราไม่ได้มีพื้นฐานในส่วนนี้มาก่อน”
      
       บอกยังรักงานละครอยู่ แค่อยากทำทุกประสบการณ์
       “ไม่ค่ะ ยังรักงานละครอยู่นะคะ นี่เป็นแค่เรียลลิตี้แค่ส่วนหนึ่งค่ะ อะไรที่ทำได้เหมือนเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ จริงๆ ก็อยากทำทุกๆ ประสบการณ์ค่ะ แพลนหลังจากนี้คงให้คิวละครอีกเรื่องหนึ่งค่ะเพราะตอนนี้รอให้รายการจบก่อนเพื่อที่จะเปิดกล้องอีกเรื่องหนึ่ง”
      
       ถามถึงเรื่องความรักเพราะวันนี้ก็เป็นวันวาเลนไทน์แล้ว จะมีไปเดทกับหนุ่ม “เอส กันตพงศ์” ที่ไหนหรือเปล่า เจ้าตัวถึงกับขำออกมาพร้อมตอบว่า
       “เอาอะไรมาเดทดีคะ ไม่มีเวลาเลยค่ะ(หัวเราะ) ไม่มีเลยจริงๆ อยู่แต่สตูดิโอกับกองถ่าย ซึ่งโลเคชั่นหลักคือชลบุรี จันทร์-อังคารนี่ต้องไปค้างที่นู่นค่ะ เรื่องเซอร์ไพรส์คงไม่หรอกค่ะ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบๆ เงียบๆ ค่ะ”
      
       “อย่างที่บอกงานมาก่อน ความรักมาทีหลังมาซัพพอร์ต ถ้าจะมีปัญหาก็คือหนูต้องเอางานมาก่อนอยู่แล้วค่ะ หนูเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักจนหลังรู้จัก หนูก็ยังสม่ำเสมอในการทำงาน การที่จะก้าวเข้ามาพี่เขาน่าจะทราบอยู่แล้วว่าเป็นยังไง น่าจะเข้าใจอยู่แล้วค่ะ”