วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Apple โดนซะแล้ว


จากข้อมูลที่สื่อต่างประเทศรายงานกล่าวว่า Apple โดนแฮคเกอร์โจมตีในลักษณะที่คล้ายกับที่ Facebook ผ่านช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ Java ที่เป็นปลั๊กอินในเว็บเบราวเซอร์ผ่านทางการเข้าชมเว็บไซต์สำหรับนักพัฒนาเว็บ ซึ่งการโจมตีดังกล่าวมาในลักษณะของมัลแวร์ โดย Apple ค้นพบจากเครื่อง Mac ในบริษัทแห่งหนึ่ง  แต่ Apple ไม่ได้เปิดเผยว่ามีข้อมูลใดถูกขโมยไปบ้าง
หลังจากค้นพบมัลแวร์ในเครื่อง Mac ทาง Apple ได้ออกอัพเดท Java for OS X 2013-001 1.0 เพื่ออุดรอยรั่วในซอฟต์แวร์ Java และกำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อควานหาต้นตอของการแฮคครั้งนี้ต่อไป โดยมีการเชื่อมโยงไปถึงกองทัพจีนด้วย ซึ่งสื่อต่างประเทศได้ระบุว่ากลุ่มที่ทำการแฮคเข้า Facebook และ Twitter อาจมาจากสถานที่แห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ มีเป้าหมายหลักอยู่ที่บริษัทสัญญาติอเมริกัน แต่แน่นอนว่าทางกองทัพจีนได้ออกมาปฏิเสธต่อคำกล่าวหาดังกล่าวแล้ว
โดยเรื่องดังกล่าวนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์จากกลุ่มแฮคเกอร์ จึงได้มีคำสั่งให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในระบบไซเบอร์ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจนำไปสู่การก่อการร้าย

“กุ๊บกิ๊บ” รับแล้ว เลิก “มาริโอ้” เผยเสียใจและยังรักอยู่

       “กุ๊บกิ๊บ” รับแล้ว เลิก “มาริโอ้” บอกเสียใจและยังรักอยู่ อ้างเพราะคบกันนานก็เลยถึงจุดต้องหยุดค้นหาตัวเอง พร้อมปัดยื้อเวลาเลิก เพราะกำลังตามง้ออดีตแฟนหนุ่ม พร้อมโต้สร้างข่าวเลิกกันเพื่อโปรโมตพ็อกเกตบุ๊ก 
      
       ทำเอาสาว “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” หน้าแหก เพราะหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ออกมายืนยันถึงสองครั้งว่าเลิกกันแล้ว ในขณะที่กุ๊บกิ๊บเองกลับยืนกรานยังเป็นแฟนกันอยู่ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำเอางงไปตามๆ กัน ว่า สรุปความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นยังไงกันแน่ ล่าสุด เมื่อวันนี้ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา กุ๊บกิ๊บได้ไปร่วมงานเปิดตัวโครงการบ้าน “ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน” ที่สยามพารากอน แต่ปรากฏว่า เจ้าตัวกลับวิ่งหนีสื่อไม่ยอมให้สัมภาษณ์ แถมมีการ์ดมาดูแลอย่างใกล้ชิด งานนี้มีคนเมาท์ด้วยว่าเจ้าตัวเป็นคนเตรียมให้การ์ดมาคุมเพื่อกันนักข่าวให้
      
       โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กุ๊บกิ๊บต้องมาร่วมงาน “พาราไดซ์ พาร์ค มหาตรุษจีน” ณ พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ผู้สื่อข่าวจึงตามมาสัมภาษณ์อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่า ได้เลิกกับมาริโอ้แล้ว ส่วนเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนไม่ได้หนี
      
       “จริงๆ ก็ไม่ได้หนี คือ ยังไงก็ต้องตอบอยู่แล้ว ก็ไม่อยากพูดหลายรอบ ก็อยากพูดทีเดียว คิดว่า น่าจะเข้าใจผิดกัน เพราะดีลกันว่าแค่จะไปพูดคุยบนเวที แล้วกิ๊บก็ต้องรีบมาที่นี่ต่อ ก็ตกใจไม่คิดว่าจะวุ่นวายขนาดนั้น รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดาราฮอลลีวู้ดมากเลย ไม่คิดว่าคนจะสนใจเราขนาดนี้ (หัวเราะ) แล้วเราก็โพสต์ขอโทษลงในอินสตาแกรมแล้ว แล้วก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ หนูก็ไม่รู้เหมือน แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ก็ขอโทษแทนกันไปเนอะ (เอาการ์ดมาคุม?) อุ๊ย...การ์ดที่ไหนล่ะ ไม่มีเลย หนูก็มาๆ ไปๆ เรื่อยๆ อยู่แล้ว การ์ดก็คงการ์ดของงานมากกว่า ไม่ใช่ของหนู ก็ส่งถึงรถค่ะ เพราะว่ากิ๊บต้องมาที่นี่ต่อ”
      
       ยอมรับเลิกกับ “มาริโอ้” ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน อ้างเพราะคบกันนานก็เลยถึงจุดต้องหยุดไปค้นหาตัวเอง
       “จริงๆ ก็คุยกันแล้ว โอเคเราก็เป็นแค่เพื่อนกัน ตอนนี้ก็หยุดก่อน ตอนนั้นก็ไม่ได้คุยกัน เราคิดยังไงก็ตอบอย่างนั้นก็ได้คุยกันหลังจากที่ให้สัมภาษณ์ไป ก็คิดว่าคนเราพอคบกันนานๆ มันก็มีจุดที่แบบหยุดพักทำอะไรค้นหาตัวเอง ก็ยังไม่ได้เจอโอ้เลย มีแต่โทร.มา เพราะว่าโอ้เขาก็งานยุ่ง จริงๆ มันก็ไม่ใช่อย่างที่โอ้บอกว่าหยุดรักกัน แต่เราแค่อยากจะหยุดโฟกัสงานต่างคนต่างใช้เวลาของตัวเองก่อน คือด้วยเวลาอะไรหลายๆ อย่าง”
      
       ยันไม่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยว เผยเสียใจ ทุกวันนี้ยังรักฝ่ายชายอยู่
       “จริงๆ ไม่ได้มีมือที่สาม คือ กิ๊บกับโอ้ถ้าจะเลิกกันก็ต้องเลิกด้วยตัวของเราเอง ไม่มีมือที่สามแน่นอน ก็เสียใจค่ะ คือ โอ้ก็เป็นเหมือนเพื่อนมาโดยตลอด แล้วก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ทุกวันนี้ก็ยังมีเหมือนเดิม ก็ไม่เสียความรู้สึกคือเรายังรัก แล้วก็ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ว่าตอนนี้เราแค่อยากหยุดก่อน แต่ว่าเราไม่ได้โกรธกันเราไม่ได้เกลียดกัน จริงๆ เราก็ไม่ได้เสียใจขนาดนั้น เราก็ยังรักกันอยู่ ยังดูแลกันเหมือนเพื่อน ว่างๆ ก็ไปกินข้าวกันได้ คือกับโอ้ไม่ว่ากิ๊บสถานะอะไรก็ได้”
      
       ปฏิเสธที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมรับ เพราะต้องการยื้อเวลา เพราะกำลังตามง้อ “มาริโอ้” อยู่
       “ก็รักอยู่แล้ว เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว คือ ไม่ใช่ยื้อหรอกมันเป็นเหมือนช่วงพักเบรก เหมือนช่วงเหนื่อยเหมือนอยากรู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ เพราะว่าอายุไม่น้อยแล้วก็อยากรู้ตัวเอง การยื้อหรือง้อกิ๊บว่าไม่ใช่คิดว่าเป็นความรู้สึกดีๆ คบกันมาตั้ง 9-10 ปี ก็โทร.คุยกันแต่ก็ไม่ได้ทะเลาะกันไม่ได้มีอะไร แล้วก็ไม่ได้ขอเลิกค่ะ ไม่มีใครขอเลิกใคร แต่เราตกลงกันเอง เพราะเราเป็นคู่รักที่ค่อนข้างแบบตรง คือ เรามีอะไรเราก็บอกตรงๆ คือ ตอนนี้เราก็ยังคุยกันได้ไม่มีอะไรค่ะ ยังไงเขาก็เป็นเพื่อนกิ๊บเพราะเรารู้จักกันตั้งแต่ 7-8 ขวบ เรามีอะไรก็โทร.ปรึกษากัน ถามว่าจะคืนดีมั้ย หนูยังไม่รู้ค่ะ เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ แต่เราก็ใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ไปก็แล้วกัน เราก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในเรื่องอนาคต”
      
       เถียงขาดใจหลังโดนเมาท์กุข่าวเลิกกันเพื่อโปรโมตพ็อกเกตบุ๊กของ “กุ๊บกิ๊บ”
       “หนูไม่เคยโปรโมตอะไรอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องโปรโมตด้วย อีกอย่างหนูก็ยังไม่ได้ออกตอนนี้ หนูก็ทำของหนูไปเรื่อยๆ ทุกคนถามว่าทำไมถึงลงอะไรเศร้าๆ หนูบอกว่าหนูไม่ได้ลงเศร้าๆ นะ หนูแค่กำลังเขียนหนังสือก็เลยให้กำลังใจคนเท่านั้นเอง ไม่ใช่พ็อกเกตบุ๊กด้วย หนูคงไม่ต้องโปรโมต เพราะโอ้เขาก็ดังอยู่แล้ว”
      

“อนันดา” ลุยงานเบื้องหลังเต็มตัว ให้ “โดนัท” ดูแลเกสต์เฮาส์ที่เชียงใหม่

“อนันดา” ลุยงานเบื้องหลังขึ้นแท่นผู้จัดละคร “รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์” พร้อมเตรียมทำหนัง “ฟูลเฮ้าส์” ส่วนความรักแฮปปี้ “โดนัท” ช่วยดูธุรกิจเกสต์เฮาส์ที่เชียงใหม่
      
       “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละคร “รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์” โดยมีพระเอก “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” กับ“ออม สุชาร์ มานะยิ่ง” นำแสดง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ขณะยกกองไปถ่ายทำที่อำเภอเขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า ตนดีใจที่ผู้ใหญ่เปิดโอกาสตนรับแท่นผู้จัดละคร
      
       “ผมก็มาดูกองตลอด มันก็แปลกดี พอเรามาสวมบทบาทโปรดิวเซอร์ คือ มันก็ยากอีกแบบ เราต้องอยู่ตรงกลาง ระหว่างฝั่งทางที่มีทัศนะความคิดทางการตลาดมากกว่า และก็ฝั่งกองที่เขามีความเป็นครีเอทีฟมันก็เป็นธรรมชาติ ก็โอเคครับก็เป็นปกติของงานที่เราต้องไซโคลน”
      
       รับกดดันบ้าง แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ เผยทุ่มเทจนบางครั้งอยากไปเล่นเอง
       “คือ ความกังวลผมว่ามันปกติแต่เราก็ทำงานออกมาให้ดีที่สุดเราก็อยากให้คนดูชอบ ยอมรับว่าเรื่องนี้อาจไม่เหมือนเรื่องที่เคยออกไปก่อนด้วยสไตล์ภาพสไตล์การแสดง”
      
       “ผมยังมีความสุขกับมันตรงที่ว่าถ้าจะให้ผมทำละครอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ผมคงทำไม่เป็น แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบนะ แต่เราไม่เข้าใจกับฉาก แต่ให้ผมทำสไตล์หนังผมทำ กดดันแต่ก็มีความสุขเพราะเราทำในสิ่งที่เราเข้าใจได้ ก็ทุ่มเทบางทีก็อยากเข้าไปเล่นเอง เราก็ต้องรู้ตำแหน่งทีมงานนักแสดงด้วย”
      
       แจงเตรียมเปิดกล้องเรื่อง “ฟูลเฮ้าส์” ต่อ รับมีอุปสรรคหาคู่พระนาง เนื่องจากส่วนใหญ่มีค่ายและสังกัดกันอยู่แล้ว
       “ต่อไปทำเรื่องฟูลเฮ้าส์ครับ อาจมีเบรกสักเดือนแต่เราก็เตรียมโปรดักชั่นไว้แล้ว ก็มีวุ่นไหนจะหนังที่ผมต้องเล่นเอง แล้วก็เตรียมหนังฟูลเฮ้าส์ด้วย ก็วางตัวนักแสดงไว้แล้วแต่ยังตอบไม่ได้ต้องยอมรับว่านักแสดงทุกวันนี้อยู่กับค่ายกันหมด คือ ผมเป็นคนอิสระตั้งแต่เด็กเลยลืมตรงนี้ เราชอบคิดว่าบทมันดีคนน่าจะอยากเล่น ตอนนี้อุปสรรคเยอะมากต้องผ่านผู้ใหญ่ต้องผ่านช่อง บางทีคุยกับนักแสดงเขาก็บอกว่าอยากเล่นมากก็มีนักแสดงมาคุยกับผมแบบนี้หลายคน ยอมรับว่า ฟูลเฮ้าส์มีคนอยากเล่นมาก แต่มันขึ้นกับหลายปัจจัย”
      
       นอกจากจะให้ผลิตงานเองทั้งหนังและละครแล้ว “อนันดา” ก็ยังทำธุรกิจที่พักที่เชียงใหม่ด้วย
       “ก็ใกล้จะเสร็จแล้วน่าจะเปิดทันสงกรานต์ ส่วนงบประมาณก็มีแค่ 14 ห้อง ก็ไม่ได้โหดร้ายมากก็หลายล้าน แต่คำว่าโรงแรมอาจจะผิดต้องเรียกเกสต์เฮาส์น่ารักๆ มีบาร์เท่ๆ มีร้านอาหาร มีร้านบูทิคขายของเก๋ๆ พวกสบู่แชมพูโดเป็นคนทำ ก็ช่วยดูของในบูทิคด้วย พวกเสื้อผ้าของชำร่วยให้ช่วยคัดสรรคนนำของเข้ามา”
      
       แฮปปี้เรื่องความรัก เผยไม่มีแพลนวาเลนไทน์
       “ก็โอเคครับ เพราะทุกคนพยายามยัดเยียดให้เป็น ก็เหมือนเดิมครับก็มีความสุขดี เพราะผมก็ไม่ได้ตามกระแสหรือติดตามข่าวเท่าไหร่ เพราะเราก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ”
      
       “วาเลนไทน์ คือ ผมเป็นคนไม่ค่อยละเอียดกับเรื่องนี้เท่าไหร่ คือ เราก็คงทำไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญขนาดนั้น คือ อยากหวานก็หวานวันไหนก็ได้ สิ่งที่เป็นวัตถุก็ไม่ได้มีความสำคัญเท่าจิตใจ เพราะส่วนมากโดเขาเป็นคนชอบเที่ยวชอบเดินทางจะพูดเรื่องเที่ยวกันมากกว่า”





“ชมพู่” รับไปส่องเพชรกับ “น็อต” แต่แค่ดูเพลินๆ ไม่ได้ซื้อแหวนหมั้น

“ชมพู่ อารยา” ปฏิเสธแอบไปเลือกแหวนหมั้นกับ “น็อต วิศรุต” แฟนหนุ่ม บอกไปนั่งส่องเพชรเฉยๆ ยันปีนี้ไม่แต่งแน่นอน เพราะงานเยอะ ผู้ใหญก็ไม่เร่งแล้ว เซ็งโดนอ้างชื่อขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ 
       
       เป็นคู่รักอีกหนึ่งคู่ที่คบมานาน และหลายคนลุ้นว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานกันซะที สำหรับเจ้าแม่แฟชั่น “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับ แฟนหนุ่ม “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” แถมล่าสุดมีคนเห็นว่าทั้งคู่ไปเลือกแหวนกันแล้ว งานนี้หลายคนเลยคิดว่าปีนี้แต่งชัวร์
       
       “ไม่ได้เลือกแหวนหมั้นไปนั่งดูเพชรก็ซื้อแต่ไม่ใช่แหวนหมั้นค่ะ ก็ดูปกติพี่น็อตไปด้วย หลังๆ ชมชวนก็มาดูด้วย ให้แกซื้อเก็บด้วยลักษณะนั้น คือ คุณน็อตเขามีของเขา อยากทำเป็นตัวเรือนมากกว่า แต่ไม่ใช่แหวนหมั้นยังไม่ใช่ จริงๆ ผู้หญิงก็ชอบค่ะ ว่างๆ พอดีกับผู้ใหญ่ที่ขายเพชรก็รู้จักกัน สนิทกัน ก็เลยไปนั่งส่องๆ เฉยๆ ไม่มีอะไรทำความสุขเพลินๆ แหวนคู่ก็ไม่มีหรอกค่ะ แบบที่เราชอบกับแบบที่เขาชอบไม่เหมือนกัน เขาใส่แบบเราก็คงจะสาวไป”
       
       “ปีนี้ยังไม่แต่งแน่นอน ปีนี้งานเยอะ กำลังเปิดกลรักสตรอว์เบอร์รี่ วันที่ 18 นี่เริ่มถ่ายวันแรก และเดือนหน้าเปิดทรายสีเพลิง มันมองไม่เห็นช่องทางที่จะเป็นไปได้ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง ปีหน้าค่อยคุยกันใหม่ว่าจะเอายังไง ผู้ใหญ่ก็เข้าใจว่าเราต่างคนต่างก็กำลังมีช่วงเวลาดีๆ ชมก็เรื่องงานก็กำลังดีก็เข้าใจ ท่านไม่ได้เร่ง เบื่อเร่งแล้วมั้งไม่เร่งนานแล้ว (หัวเราะ)”
       
       ของขวัญวาเลนไทน์ปีนี้ยังไม่ได้คิด บอก “น็อต” ไม่น้อยใจ
       “สำหรับของขวัญวาเลนไทน์ ชมจะแบบบางทีก็มีบางทีก็ไม่มี แล้วแต่อารมณ์ คบกันมานานแล้วบางทีก็เฉยๆ ปีไหนคิดได้ก็มี ปีไหนคิดไม่ได้ก็ไว้ก่อน เจอกันอีกทีวันเกิดหรือไม่ก็ปีหน้า ปีนี้ชมยังไม่ได้คิดเลย ชมลืมขอบคุณนะคะที่เตือน เขาไม่น้อยใจที่ลืมหรอกค่ะ”
       
       ไม่ว่าจะขยับตัวหยิบจับอะไร เจ้าแม่แฟชั่นอย่าง “ชมพู่” มักจะถูกเลียนแบบ ล่าสุด ชมพู่หันไปเล่นตุ๊กตาเฟอร์บี้ ก็มีคนเล่นตามทั่วบ้านทั่วเมือง จนมีคนแอบอ้างรู้จักกับ “อาเล็ก ธีรเดช” และชมพู่เพื่อหลอกขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ ตุ๋นเงินนับ 6 ล้านบาท
       “ไม่เกี่ยว อย่าเอาไปแอบอ้าง คือ ถ้าเสียหายมากๆ และเราได้รับผลกระทบด้วยถ้าถึงความจำเป็นจริงๆ ก็คงจะต้องว่ากันไปด้วยเรื่องของกฎหมาย แต่ตอนนี้ท่าทางจะคลี่คลายได้ จับต้นชนปลายได้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ปล่อยให้ทางการจัดการไป แต่ฝากเตือนสำหรับชมเองนะ”
       
       “ทัศนคติชมต่อการซื้อของออนไลน์ ถ้าไม่ได้มีระบบการจ่ายงินที่เป็นมาตรฐานสากล ถ้าไม่รู้จักกัน ไม่โอนเงินให้นะ ขอเตือนทุกคนเลย ใครก็ไม่รู้จะมาอ้างอิงว่าเป็นคนนั้นคนนี้เช็กดีๆ ลองกลับไปดูสิว่าหน้าอินสตาแกรมเขาที่เราตามอยู่ อย่าชม อย่างอาเล็ก หน้าของเราเองเรายังไม่ขายเลย เราจะไปขายหน้าคนอื่นทำไม ให้ใช้สติกันนิดหนึ่ง จริงๆ เพิ่งรู้เรื่องเมื่อวานเองนะ ตอนแรกเห็นอาเล็กขึ้นอินสตาแกรม ก่อนมีเรื่องนี้ด้วยเหรอไปๆ มาๆ มีเราเกี่ยวด้วย(หัวเราะ) ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณกันเยอะๆ”
       
       “คือ รู้สึกมันหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนเราก็จะโดนเอารูปไปหากิน ถามว่า เบื่อไหมเบื่อมากเวลาที่โดนเอารูปไปใช้ประโยชน์ในการค้า ก็พยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ถามว่าเซ็งไหม เซ็ง ดาราเซ็งทุกคน ตอนนี้มันหนักถึงขั้นเอาชื่อใช้หลอกลวงมันชักจะมากแล้ว ดาราก็เป็นคนนะ ชมชอบเล่นของเล่น ชมก็เป็นคนทั่วไป จะให้พูดยังไงอย่างที่บอกเป็นชม ชมไม่โอนตังค์ให้ใครที่ชมไม่รู้จัก หรือไม่ก็ต้องยื่นหมูยื่นแมวกัน ของมาตังค์ไป เราไม่เคยเจอหน้ากันไม่เคยทำธุรกิจกัน คุณต้องคิดดีๆ จะโอนตังค์ให้ใคร”



“สาวมาด เมกาแดนซ์” ครรภ์เป็นพิษ ผ่าคลอด-ผ่าตัดสมองด่วน แพทย์เฝ้าใกล้ชิดวันต่อวัน

       “สาวมาด เมกาแดนซ์” เจ้าของเพลงฮิตดาวมหาลัย ครรภ์เป็นพิษต้องคลอดก่อนกำหนด ความดันโลหิตสูงเลือดออกทับก้านสมองผ่าตัดด่วน แพทย์เฝ้าดูอาการวันต่อ ญาติเตรียมเปิดแถลงข่าวพรุ่งนี้
      
       หายหน้าไปนานเลยทีเดียวสำหรับ “สาวมาด เมกาแดนซ์” ศรุดา วรนัทมงคล นักร้องเพลงลูกทุ่ง เจ้าของเพลงฮิต “ดาวมหาลัย” แต่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สาวมาดก็เกิดอาการครรภ์เป็นพิษ ทำให้ความดันโลหิตสูงเลือดออกทับก้านสมอง แพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ต้องทำการผ่าตัดสมองเพื่อดูดเอาเลือดออก และทำคลอดลูกสาวในครรภ์แม้จะมีอายุครรภ์เพียง 6 เดือนออกก่อนกำหนด
      
       ซึ่งตอนนี้เด็กอยู่ในตู้อบ สามารถหายใจเองได้ แต่มีน้ำหนักตัวไม่ถึง 7 ขีด ส่วนสาวมาดนั้นขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว อาการทรงตัว พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอ.ซี.ยู ยังมีเลือดออกบริเวณก้านสมอง แพทย์พยายามให้ยาห้ามเลือด ประกอบกับตับไตมีอาการอักเสบ และแผลผ่าตัดที่หน้าท้องมีเลือดซึม แพทย์ต้องเย็บแผลที่หน้าท้องใหม่ แพทย์ต้องดูอาการแบบวันต่อวัน และเตรียมเปิดแถลงข่าวถึงความคืบหน้าของนักร้องลูกทุ่งคนดัง วันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น.ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

“เจนี่” รับห่าง “บอย” แล้ว รีบพูดดักจริงๆ ใช้คำนี้ไม่ได้ เพราะเป็นแค่เพื่อนมาตั้งแต่ต้น

“เจนี่” รับห่าง “บอย” แล้ว ก่อนพูดดักจริงๆ ใช้คำนี้ไม่ได้ เพราะเป็นแค่เพื่อนมาตั้งแต่ต้น พร้อมตอบซะห่างเหินบอกไม่รู้สัมพันธ์จะพัฒนาหรือไม่ เพราะตนทำงานแทบ 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่ว่างไปไหนด้วยกัน ยันตอนนี้โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ลั่นกลัวเจ็บไม่อยากรักใครง่ายๆ 
      
       ถึงรักครั้งนี้จะไม่ค่อยออกตัวแรง แต่ก็ยังพอจะได้เห็นภาพหวานระหว่างสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับไฮโซหนุ่มทายาทผู้บริหารห้างแพลทินัม “บอย พลาวุธ ลิมปิวิวัฒน์กุล” เพื่อยืนยันสถานะความรัก แม้สาวเจนี่จะบอกปัดเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอด แต่ฝ่ายชายกลับยอมรับแบบไม่กั๊กว่าดูใจกันอยู่ แถมพ่อแม่ไฟเขียว แต่ล่าสุด มีข่าวว่า หนุ่มบอยได้ขึ้นข้อความในอินสตาแกรมตัดพ้อว่าได้เลิกกับสาวเจนี่แล้ว ถามเรื่องนี้กับนางเอกสาว เจ้าตัวก็บอกว่า…
      
       “อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าเป็นเพื่อนกัน (แต่ในอินสตาแกรมดูเหมือนบอยจะเฮิร์ตๆ?) คำพูดจากปากเจนี่ คือ คำว่าเพื่อนกัน ไม่มีเขยิบความสัมพันธ์ ก็พูดคุยกันในฐานะเพื่อน เจนี่ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยตอนนี้ ไม่มีที่บอยโพสต์ข้อความว่าเลิกกับเจนี่แล้ว ถ้าถามว่าช่วงนี้คุยไหม ก็ห่วงในฐานะเพื่อน เขาก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังนะ ช่วงนี้ก็ห่างกันมากกว่าช่วงแรกๆ เพราะงานเยอะ”
      
       เมื่อย้ำถามว่ากับ “บอย” ยังแฮปปี้อยู่ไหม? นางเอกสาวก็ตอบเลี่ยงว่า
       “แฮปปี้กับงานค่ะ ใช้คำว่าห่างก็ไม่ถูกนะ เพราะเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ เจนี่ว่าเรื่องความรักของเจนี่มันเป็นอะไรที่เรื่อยๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่เจนี่รู้สึกว่าเราแฮปปี้จริงๆ เจนี่บอกพี่ๆ แน่นอน แต่ ณ ขณะนี้เจนี่ทำงานหนักมากจริงๆ เดือนมีนาฯ 31 วัน ไม่มีวันว่างแม้แต่ 1 วัน”
      
       “ตอนนี้ไม่มีใครดูใจเลย โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยฐานะเจนี่ขณะนี้และด้วยวัยของเจนี่ ก็ต้องดูแลความรู้สึกของตัวเองให้ดีๆ เมื่อไหร่ที่เจนี่พร้อมที่จะบอกหรือเปิดให้รู้ความรู้สึกจริงๆ ก็คงจะมีวันนั้น แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่ อนาคตถามว่าจะมีโอกาสพัฒนาไหม ไม่ทราบ ไม่มีไปไหนด้วยกัน เพราะไม่ว่าง จะมีใครจีบไหม ทำงาน 31 วันต่อเดือน แต่ไม่ทันได้เหงาเพราะมีงานเยอะอีกอย่างก็ค่อนข้างจะระมัดระวังหัวใจตัวเอง เพราะอายุเราก็พอสมควรแล้ว กลัวว่า ถ้าให้ใจใครไปง่ายๆ เดี๋ยวจะเจ็บ ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ เราก็ต้องเลือกเยอะขึ้น เพราะเพื่อนๆ ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ทุกคนแล้ว ถามว่าเจนี่กดดันไหม ก็นิดหนึ่งนะ”
      
       ส่วนที่ก่อนหน้านี้ “บอย” ออกมาพูดว่า ดูๆ กันอยู่ พ่อแม่ไฟเขียว “เจนี่” ปัดอย่างห่างเกินว่าก็แล้วแต่จะพูดไป
       “ก็ปล่อยให้เขาพูดไป เราเป็นผู้หญิงพูดอะไรมากก็ไม่ดี เจนี่ไม่ได้มองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของชีวิตคู่ เพราะแต่งงานก็เลิกได้ เจนี่ว่าถ้าเราแฮปปี้ตรงไหนมีความสุขกับตรงไหนก็อยู่ตรงนั้นดีกว่า ณ ขณะนี้เจนี่แฮปปี้กับทุกสิ่งในชีวิต ก็เป็นเพื่อนกัน ถามว่าถ้าเขาอยากจะพัฒนาเจนี่จะปิดโอกาสไหม ไม่ทราบเหมือนกัน ก็ต้องอยู่ที่เขาค่ะ ถึงวันที่พร้อมเมื่อไหร่ก็จะบอกจริงๆ ค่ะ”


     

“โย-บี” ลงทุนเปลือยท่อนบนถ่ายโปรโมตอาหารเสริมของตัวเอง


“โย-บี” ลงทุนเปลือยท่อนบนถ่ายโปรโมตอาหารเสริมของตัวเอง พร้อมแจงการถ่ายแบบนี้เป็นเรื่องปกติของนางแบบ แต่ถ้าใครจะมองเป็นนู้ดก็ไม่ว่า เพราะนู้ดคืองานศิลปะ ปลื้มขนาดยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่กระแสตอบรับดีมาก 
      
       เป็นเพื่อนซี้กันมานาน ล่าสุด สองสาว “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” และ “บี น้ำทิพย์ จงรัชตะวิบูลย์” ก็ตัดสินใจลงขันร่วมหุ่นทำธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ได้มาตรฐานจากนักโภชนาการร่วมกัน โดยทั้งคู่ลงทุนถ่ายแบบเปลือยท่อนบน เพื่อสื่อถึงผิวพรรณ สุขภาพที่ดี พร้อมแจงว่าการถ่ายแบบนี้เป็นเรื่องปกติของนางแบบ แต่หากใครจะมองว่าเป็นนู้ดก็ไม่ว่าเพราะนู้ดก็ถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง
      
       โย : “ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แค่ลองเปิดในอินสตาแกรม แต่เราก็มีถ่ายรูปโฆษณาของเราแล้ว ซึ่งเดี๋ยวเราจะเปิดประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจนในเร็วๆ นี้”
      
       บี : “แค่ลงในอินสตาแกรมคนก็เข้ามาสอบถามกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นคนนอกวงการและในวงการ ทุกคนให้ความสนใจเกี่ยวกับความสวยความงาม การควบคุมน้ำหนักมากเลย คนที่รักสุขภาพก็จะโทรเข้ามาติดต่อเรากัน”
      
       โย : “ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ที่ลูกค้าเราไม่ใช่แค่ผู้หญิงอย่างเดียว เรามีลูกค้าผู้ชายที่พอๆ กับผู้หญิงเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะทุกอย่างเราต้องคำนวณจากนักโภชนาการก่อนถึงจะทำอาหารที่เหมาะสมไปให้ เราเองก็ลองเทสต์รสชาติอาหารด้วยตัวเองทุกอย่าง รับรองได้เลยว่าอาหารของเราคุณภาพดีและอร่อยมาก คนที่ทานยากพอลองได้ชิมอาหารของเราแล้วก็จะถูกใจกันทั้งนั้น มีคนส่งข้อความมาชมว่าอาหารอร่อยเยอะมาก ไม่เหมือนอาหารไดเอตฟูด แต่จริงๆ แล้วมันเป็นอาหารไดเอตฟูดที่แคลอรี่ต่ำมากๆ”
       ลงทุนเปลือยท่อนบนถ่ายแบบโปรโมตสินค้า
       โย : “เราไม่ได้พยายามโชว์ให้มันดูออกมาเป็นนู้ดอะไรนะ เราต้องการสื่อถึงความมีสุขภาพดี การทานอาหารที่ดีก็บ่งบอกถึงผิวพรรณที่ดี สิ่งที่จะทำให้คนเห็นได้คือต้องมาจากที่ตัวเราก่อน นั่นคือ สิ่งที่พรีเซ็นเตอร์ที่ดีควรทำ ช่างภาพเองเขาก็หาคอนเซปต์มาได้อย่างเหมาะสมกับงานของเรา ไม่ได้โป๊อะไร แค่เห็นแผ่นหลังเท่านั้นเอง”
      
       บี : “งานเราที่ผ่านๆ มาโป๊กว่านี้อีก ตอนถ่ายเราก็เซฟกันอย่างดี ด้วยอาชีพของเราการโพสต์ท่าเซ็กซี่มันเป็นงานของเราอยู่แล้ว เรารู้ว่าลิมิตของเราได้แค่ไหน เราแค่อยากจะพรีเซ้นส์ว่าผิวพรรณเราดี หุ่นเราดีจริงๆ นะ เราไม่ได้เฟคมาถ่ายรูป อยากจะนำเสนอในด้านนี้มากกว่าค่ะ เราเองก็อยากให้คนมองว่ามันเป็นงานอาร์ตด้วย”
      
       โย : “นู้ดก็คืองานอาร์ตงานนึง ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะเรามองว่ามันเป็นงาน”